ข่าวสารวันนี้

 

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 13, 2025 07:03  สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 4,200 ดอลลาร์ในวันพุธ (12 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งความหวังที่ว่าหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง

ซึ่งจะทำให้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธ.ค.

โดยขณะนี้นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้


ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 97.3 ดอลลาร์ หรือ 2.36% ปิดที่

4,213.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ร่วงลง 1% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาด เนื่องจาก

การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็น

สินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เตรียมลงมติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันนี้

(13 พ.ย.) ตามเวลาไทย เพื่อยุติการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ โดยหากสภาผู้

แทนราษฎรลงมติอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย

 

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งทะลุ 5,000 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในไตรมาส 4 ของปี 2569 โดย

ได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางและผู้บริโภคเป็นผู้ซื้อสำคัญในช่วงที่ราคาทองอ่อนตัวลง

ส่วนธนาคาร ANZ ระบุในรายงานว่า ราคาทองคำได้ทะลุผ่านแนวต้านที่ระดับ 4,050 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำให้มีแนวต้านถัดไป

ที่ระดับ 4,160-4,170 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งหากราคาทองทะลุผ่านช่วงนี้ได้ ก็จะมีโอกาสพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่

4,381 ดอลลาร์/ออนซ์

 อ้างอิง:// https://www.ryt9.com/s/iq31/12764772

 

 

Visitors: 74,350